ทำให้ทีมต้องเริ่มต้นใหม่แทบจะยกเครื่อง โดยการแต่งตั้ง คีธ แอนดรูว์ส อดีตผู้ช่วยโค้ชชุดเดิมขึ้นคุมทีมเต็มตัว ถือเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ของเจ้าของทีม แมทธิว เบนแฮม ที่ยังคงเชื่อมั่นในกระบวนการบริหารจากข้อมูลสถิติแบบเฉพาะตัว

แอนดรูว์ส แม้จะเป็นคนคุ้นหน้าสำหรับแฟนบอลจากบทบาทโค้ชลูกตั้งเตะเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่การขึ้นมารับบทกุนซือใหญ่ในพรีเมียร์ลีกนับเป็นงานที่ท้าทายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อทีมต้องสูญเสียแกนหลักทั้งในและนอกสนาม ไม่ว่าจะเป็น ไบรอัน เอ็มเบอูโม่, โยอัน วิสซ่า, คริสเตียน นอร์การ์ด, เบน มี และผู้รักษาประตู มาร์ค เฟล็คเค่น

เบรนท์ฟอร์ดเสริมทัพด้วยแข้งประสบการณ์อย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และผู้รักษาประตู เคาอิมฮิน เคลเลเฮอร์ จากลิเวอร์พูล ขณะที่ ไมเคิล คายาเด้ แบ็กขวาดาวรุ่งก็ถูกซื้อขาดจากฟิออเรนติน่า หลังโชว์ฟอร์มเด่นช่วงท้ายฤดูกาลที่แล้ว โดยเฉพาะเกมเปิดบ้านชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-3

ขณะเดียวกัน ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ อดีตดาวรุ่งลิเวอร์พูล ที่โชคร้ายบาดเจ็บจนพลาดช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลที่ผ่านมา ก็เตรียมกลับมาเป็นกำลังสำคัญอีกครั้ง รวมถึง อิกอร์ ติอาโก้ กองหน้าสถิติค่าตัวแพงสุดของสโมสร ที่พร้อมคืนสนามหลังฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บหัวเข่า

ในด้านนอกสนาม เบนแฮมได้ขายหุ้นบางส่วนให้แก่นักธุรกิจอย่าง แกรี่ ลับเนอร์ และแมทธิว วอห์น ผู้กำกับชื่อดังจากภาพยนตร์ Lock, Stock and Two Smoking Barrels และ Kingsman ด้วยมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านปอนด์ แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างผู้ถือหุ้น แต่ ฟิล ไจล์ส ผู้อำนวยการกีฬา และจอน วาร์นีย์ ซีอีโอ จะยังคงบริหารงานประจำวันของสโมสรต่อไป

แม้จะเผชิญความท้าทายหลายด้าน แต่เบรนท์ฟอร์ดยังคงยึดมั่นในกระบวนการสร้างทีมระยะยาว และหวังว่าขุมกำลังที่ถูกมองข้ามอย่างเฮนเดอร์สัน, คายาเด้ และคาร์วัลโญ่ จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของสโมสรในฤดูกาลนี้